เล่นร้ายมาก็หลายเรื่อง แต่คงไม่มีเรื่องไหนที่ทำเอา เอ-พศิน เรืองวุฒิ กลัวคนเกลียดเท่า ภาพยนตร์เรื่อง "ปฏิหาริย์รักต่างพันธ์" (Deep in the jungle) ค่าย พระนครฟิลม์ การกำกับ ฯ ของเปีย - ธีระวัฒน์ รุจินธรรม เพราะทั้งเรื่องต้องเล่นบทร้ายแบบสุด ๆ เรียกได้ว่าร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ว่าได้
ซึ่งในเรื่อง เอ - พศิน เรืองวุฒิ รับบทเป็น มนัส ทหารรุ่นน้องของวินทร์ (ติ๊ก -เจษฏาภรณ์ ผลดี) ซึ่งตอนแรกก็ชื่นชมในตัวรุ่นพี่ แต่พอได้รับภารกิจให้ตามล่า จิน (พลอย จินดาโชติ) เพื่อนำมาให้ทีมค้นคว้าทดลอง และโดนรุ่นพี่อย่างวินทร์ขัดขวาง มนัสก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ โดยไม่สนใจว่าต้องฆ่าคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือขัดขวางสักกี่คน
เอ - พศิน กล่าวว่า "ตอนแรกที่ผมได้รับการติดต่อจากพี่เปีย (ผู้กำกับ ฯ ) ผมก็ตื่นเต้นนะ คือพี่เปียเขาทาบทามให้ผมมารับบทเป็นทหาร ซึ่งผมก็ตอบรับทันที ทั้งที่ยังไม่ได้อ่านบท เพราะผมเชื่อมั่นในผู้กำกับ ฯ กับคาแรคเตอร์ของผมจะเป็นคนที่มีความคิดว่า คนที่แตกต่างจากเราไม่ใช่คน ซึ่งในเรื่องนี้ผมเล่นร้ายมาก ตามล่าพระเอกและนางเอกทั้งเรื่องเลย ก็ทำใจลำบากเหมือนกัน การทำงานกับติ๊กนั้น ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกัน แค่เคยเจอกันตามงานต่าง ๆ แต่ในเรื่องนี้ผมต้องเข้าฉากแอ็คชั่นกับติ๊กเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งผมชื่นชมติ๊กนะ เพราะเขามีความเชื่อในตัวละครสูงมาก เขาจะอินจริง ๆ เพราะระหว่างที่ถ่ายทำ ผมไม่เห็นเขาเป็นเจษฏาภรณ์นะ ผมเห็นเขาเป็นนาวินทร์จริง ๆ แล้วเขาก็พร้อมที่จะยิงผมได้ตลอดเวลา เพราะงั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องแกล้งกลัว ผมรู้สึกกลัวจริง ๆ ในปืนที่ติ๊กเขาถือผมรู้สึกว่ามันมีกระสุนจริง ๆ ซึ่งผมคิดว่ามันสามารถจะยิงผมได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นผมต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ เมื่อคิดแบบนี้มันทำให้การทำงานของผมกับติ๊กมันง่ายขึ้น อย่างผมเล่นเป็นทหาร ในเรื่องผมต้องใส่ชุดทหารคอมมาโด ต้องใส่รองเท้าคอมแบ็ต มีฉากหนึ่งที่ผมต้องเหยียบหน้าติ๊ก ผมก็เหยียบจริง ต้องขยี้ด้วย เหมือนเป็นการเอาคืน เพราะก่อนหน้านี้ติ๊กเขาเอาปืนจ่อหัวผม ตอนแรกผมก็ยังไม่ลงน้ำหนักเต็มที่ ก็เลยไม่ได้ภาพที่ถูกใจผู้กำกับ ฯ สักที ถ่ายหลายเทคมาก จนในที่สุดติ๊กก็บอกผมว่าเต็มที่เลย ผมก็เลยเล่นจริง ก็เทคเดียวผ่าน พอคัตปุ๊ปผมก็มาดู ภาพที่ออกมาก็ดูเหมือนว่าผมโหดร้ายจริง ๆ เหยียบหน้าติ๊ก แถมขยี้อีก แล้วยังยิงซ้ำ ก็กลัวเหมือนกันว่าแฟนคลับของติ๊ก จะพากันรุมเกลียดผมที่ไปทำพระเอกของเขาขนาดนั้น แต่ก็เพื่อผลงาน ผมคิดว่าคนดูคงเข้าใจและติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ"
No comments:
Post a Comment